เรียนรู้ทุกชนิดแต่ควรคิดก่อนใช้

เรียนรู้ทุกชนิดแต่ควรคิดก่อนใช้
คติพจน์ประจำใจ

วันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

พระสังฆาธิการ 2556

โครงการอบรมพระสังฆาธิการแต่งตั้งใหม่ 2556
ระดับ จต.,รจต.,จร.,รจร.,และผจร
คณะสงฆ์จังหวัดร้อยเอ็ด
พระเดชพระคุณเจ้าคุณพระพุทธิสารมุนี
เจ้าคณะจังหวัดร้อยเอ็ด
ประธานจัดอบรม
ณ  ห้องประชุมวัดบ้านเปลือบใหญ่
ตำบลรอบเมือง  อำเภอเมืองร้อยเอ็ด  จังหวัดร้อยเอ็ด
ระหว่างวันที่  14-15  พฤศจิกายน  2556
พระมหาอุดร  ธมฺมปญฺโญ
รองเจ้าคณะอำเภอเมืองร้อยเอ็ด
เลขานุการเจ้าคณะจังหวัดร้อยเอ็ด
กล่าวถวายรายงาน
เรื่อง หน้าที่เจ้าอาวาส

          ตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ มาตรา ๓๗  บัญญัติหน้าที่ของเจ้าอาวาสไว้ดังนี้
 (๑)    บำรุงรักษา จัดกิจการและศาสนสมบัติของวัดให้เป็นไปด้วยดี
 (๒)    ปกครองและสอดส่องให้บรรพชิต และคฤหัสถ์ที่มีที่อยู่หรือพำนักอาศัยอยู่ในวัดนั้นปฏิบัติตามพระธรรมวินัย กฏมหาเถรสมาคม ข้อบังคับ ระเบียบหรือคำสั่งของมหาเถรสมาคม
 (๓)    เป็นธุระในการศึกษาอบรม และสั่งสอนพระธรรมวินัยแก่บรรพชิตและคฤหัสถ์
 (๔)    ให้ความสะดวกตามสมควรในการบำเพ็ญกุศล
ตามมาตรา ๓๗ (๑) คำว่า บำรุงรักษานั้นก็หมายถึง การะวังรักษาเพื่อให้คงอยู่ รักษาให้อยู่ในสภาพดี ทำให้งอกงาม 
ทำให้เจริญ ดังนั้นการบำรุงรักษานอกจากดูแลรักษาวัดและสิ่งก่อสร้างต่างๆภายในวัดไม่ว่าจะเป็น โบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ โรงครัว ห้องน้ำ เหล่านี้ให้อยู่ในสภาพดีแล้ว 
ยังจะต้องพัฒนา ปรับปรุงให้ดีขึ้นด้วย อาทิเช่น การทำทางลาดให้ผู้พิการ ผู้สูงอายุ ให้สามารถใช้ห้องน้ำได้โดยสะดวก การทำห้องน้ำให้ ผู้พิการโดยเฉพาะ การปรับเปลี่ยนห้องส้วมเป็นแบบชักโครกเพื่อให้
ผู้สูงอายุใช้ได้ เป็นต้น ก็เป็นตัวอย่างในการพัฒนาห้องน้ำห้องส้วมภายในวัดให้ดีขึ้น สะอาดขึ้น ซึ่งเรื่องดังกล่าวหากท่านเจ้าอาวาสให้ความสำคัญก็จะได้รับการพัฒนา
และได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายทั้งพระเณรในวัดหรือพุทธบริษัท แต่บางเรื่องนั้นหากท่านเจ้าอาวาสได้ดำเนินการตามหน้าที่แต่พระลูกวัดบางรูปเกิดไม่เห็นด้วยกับการกระทำ
จนกลายเป็นข้อพิพาทขึ้นระหว่างเจ้าอาวาสกับพระลูกวัดจนต้องนำเรื่องราวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
                         พระครูสุตกิจวิมล
                   เจ้าคณะอำเภอสุวรรณภูมิ
           เลขานุการรองเจ้าคณะจังหวัดร้อยเอ็ด
ดังคำพิพากษาฎีกาที่ ๑๔๙๕/๒๕๑๗   คดีนี้โจทก์ซึ่งเป็นพระลูกวัดฟ้องเจ้าอาวาสเป็นจำเลยที่ ๑     กับพวก โดยบรรยายฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ เป็นเจ้าพนักงานโดยเป็นเจ้าอาวาส
มีหน้าที่ดูแลรักษาทรัพย์สินของวัดและปกครองพระภิกษุซึ่งอยู่ในวัด ได้สั่งให้จำเลยที่ ๒ ซึ่งเคยเป็นพระภิกษุในวัดกับพวกเข้าไปในกุฏิและงัดกุญแจห้องของโจทก์ กับรื้อถอนกุฏิอันเป็นเคหสถานในความครอบครองของโจทก์ 
จำเลยที่ ๒ กับพวกได้งัดกุญแจห้องของโจทก์แล้วรื้อถอนกุฏิทั้งหลังตามคำสั่งของจำเลยที่ ๑ ทำให้ทรัพย์สินของโจทก์สูญหาย การกระทำของจำเลยกับพวกเป็นการรบกวนการครอบครอง
อสังหาริมทรัพย์ของโจทก์เป็นการทำลาย ทำให้เสียหาย ทำให้เสื่อมค่าซึ่งทรัพย์สินของโจทก์ นอกจากนี้การกระทำของจำเลยที่ ๑ ยังเป็นการปฏิบัติและละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เ
พื่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ การกระทำของจำเลยที่ ๒ เป็นการสนับสนุนการกระทำดังกล่าวของจำเลยที่ ๑ ขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๘๓, ๘๔, ๘๖, ๑๕๗, ๓๕๘, ๓๖๒, ๓๖๔, ๓๖๕
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว ให้ประทับฟ้องโจทก์เฉพาะข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๕๘, ๓๖๒, ๓๖๕
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์
          โจทก์อุทธรณ์
          ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

          โจทก์ฎีกา
พระครูปริยัติธรรมโสภณ
รองเจ้าคณะจังหวัดร้อยเอ็ด
เจ้าอาวาสวัดบ้านยางเครือ
บรรยายถวายความรู้
เรื่องงานการศึกษาสงเคราะห์
ศาลฏีกาวินิจฉัยว่า จำเลยที่ ๑ สั่งให้รื้อกุฏิ ๖ หลัง รวมทั้งกุฏิที่จำเลยที่ ๑ อาศัยอยู่ด้วย รื้อกุฏิที่จำเลยที่ ๑ อาศัยอยู่กับกุฏิอื่นๆรวม ๔ หลัง ก่อนรื้อกุฏิที่โจทก์อาศัยอยู่ 
          เป็นการสั่งให้รื้อเพื่อไปปลูกรวมกับกุฏิที่อยู่ทางทิศเหนือของโบสถ์ อันเป็นการกระทำเพื่อให้กุฎิรวมเป็นกลุ่มเดียวกัน เป็นการบำรุงรักษาจัดกิจการและศาสนสมบัติของวัด
ให้เป็นไปด้วยดี ซึ่งจำเลยที่ ๑ ในฐานะเจ้าอาวาสของวัดมีอำนาจกระทำได้ตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ มาตรา ๓๗ (๑) การกระทำของจำเลยที่ ๑ จึงไม่มีความผิดฐานบุกรุก ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น





พระครูโพธิวีรคุณ
เจ้าคณะอำเภอปทุมรัตต์
บรรยายถวายความรู้
เรื่องการบริหารวัดเป็นศูนย์กลางชุมชน




พระครูโพธิวีรคุณ
เจ้าคณะอำเภอปทุมรัตต์

















  นพระครูเอกุตตรสตาธิคุณ
เจ้าคณะอำเภอธวัชบุรี
นายโยธิน  อาวรณ์ 
นักวิชาการชำนาญการ
สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดร้อยเอ็ด
บรรยายเรื่องงานสารบรรณ















  พระครูปริยัติโชติยาภรณ์
เลขานุการเจ้าคณะอำเภอเมืองสรวง
เจ้าอาวาสวัดท่าสว่าง บ้านหนองผือ-โนนค้อ
รักษาการเจ้าคณะตำบลกกกุง












  นายโยธิน  อาวรณ์ 
นักวิชาการชำนาญการ
สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดร้อยเอ็ด
บรรยายเรื่องงานสารบรรณ




























 นายโยธิน  อาวรณ์ 
นักวิชาการชำนาญการ
สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดร้อยเอ็ด
บรรยายเรื่องงานสารบรรณ










































































ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น