เรียนรู้ทุกชนิดแต่ควรคิดก่อนใช้

เรียนรู้ทุกชนิดแต่ควรคิดก่อนใช้
คติพจน์ประจำใจ

วันพุธที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2556

หนอนภูดำเนินงานพระราชทาน 2556

 ประวัติวัดท่าสว่าง

วัดท่าสว่าง   ตั้งอยู่ที่บ้านหนองผือ   หมู่ที่  ๑   ตำบลหนองผือ  อำเภอเมืองสรวง   จังหวัดร้อยเอ็ด   สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย   ที่ดินทั้งวัดมีเนื้อที่  ๖  ไร่   มีอาณาเขตทางทิศเหนือประมาณ  ๒  เส้น  ๑๒  วา  จดที่ดินของชาวบ้าน   ทางทิศใต้ประมาณ  ๒  เส้น  ๑๒  วา   จดอนามัย  ประจำตำบลหนองผือ   ทางทิศตะวันออก   ประมาณ  ๒  เส้น  ๒  วา   จดถนนรอบวัด  ทางทิศตะตกประมาณ  ๒  เส้น  ๒  วา  ๑  ศอก   จดทางหลวงแผ่นดิน   อาคารเสนาสนะ   ประกอบด้วยอุโบสถ   กว้าง   ๓   เมตร   ยาว  ๗  เมตร   สร้างเมื่อ   พ..   ๒๔๖๐  ศาลาการเปรียญ   กว้าง  ๑๒  เมตร   ยาว  ๒๑  เมตร   เป็นอาคารไม้ ( หลังเดิม )   สร้างเมื่อ  พ.๒๕๐๖   กุฏิสงฆ์   จำนวน  ๔  หลัง   เป็นอาคารไม้  ๑  หลัง   เป็นอาคารปูน  ๓  หลังและศาลาบำเพ็ญกุศล   จำนวน  ๑  หลัง  
เป็นอาคารไม้  วัดท่าสว่าง   ตั้งเมื่อ   พ.๒๔๔๓   โดยการนำของผู้ใหญ่บ้านในสมัยนั้น   ในปี  พ..   ๒๔๔๒    ชาวบ้านได้ย้ายมาจากบ้านเมืองสรวงใหญ่   เพื่อมาอาศัยอยู่ที่นาของตนเอง และมีความเห็นร่วมกันว่าให้ตั้งวัดขึ้น   เดิมวัดชื่อว่า   วัดหนองผือ   เพราะตั้งตามชื่อของหมู่บ้าน  ต่อมาเมื่อทางราชการตัดถนนผ่าน   จึงได้เปลี่ยนนามวัดใหม่ว่า  วัดท่าสว่าง   ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา   เมื่อวัดที่  ๒๕  เดือน   สิงหาคม   พ..๒๔๖๔   เขตวิสุงคามสีมา   โดยความกว้าง   ๕๘   เมตร   ยาว   ๑๐๔   เมตร
ปัจจุบันกำลังสร้างศาลาการเปรียญขึ้น  ๑  หลังแทนหลังเดิมที่ทรุดโทรม  โดยมีความกว้าง  ๑๔  เมตร  ยาว  ๒๕  เมตร  เป็นศาลาทรงไทย



ประวัติพระสังฆาธิการ
ชื่อ  พระครูประโชติสมณวัตร  ฉายา   จนฺทโชโต  อายุ  ๖๘  พรรษา  ๔๘  วิทยฐานะ  น.. เอก  ป.. ๓ 
วุฒิปริญญาตรี   พุทธศาสตรบัณฑิต  (พธ..) จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย  สังกัดวัดท่าสว่าง 
บ้านหนองผือ  ตำบลหนองผือ  อำเภอเมืองสรวง  จังหวัดร้อยเอ็ด
ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง
() เจ้าอาวาสวัดท่าสว่าง  ตำบลหนองผือ  อำเภอเมืองสรวง  จังหวัดร้อยเอ็ด
(รองเจ้าคณะอำเภอเมืองสรวง    จังหวัดร้อยเอ็ด
(๓)  รักษาการเจ้าคณะอำเภอเมืองสรวง 
สถานะเดิม     

ชื่อ  บุญเลิศ  นามสกุล  พิมพ์แพทย์  เกิดวัน  ๓ ฯ ๔ ค่ำ  ปี  ระกา  วันที่  ๒๐  มีนาคม  พ.๒๔๘๘ 

บิดา  นายด้วง  มารดา  นางสีลา  พิมพ์แพทย์  บ้านเลขที่  ๑๕  หมู่ที่  ๘  ตำบลหนองผือ 

อำเภอเมืองสรวง  จังหวัดร้อยเอ็ด

อุปสมบท
เมื่อวัน  ๔ ฯ ๖  ค่ำ ปีมะเมีย  วันที่  ๔  เดือน พฤษภาคม  พ.๒๕๐๙  ณ  พัทธสีมาวัดท่าสว่าง 
บ้านหนองผือ ตำบลหนองผือ  อำเภอเมืองสรวง  จังหวัดร้อยเอ็ด พระอุปัชฌาย์  พระครูสุปัญญาจารย์ 
( เคน  สุปญฺโญ )  วัดท่าสว่าง  ตำบลหนองผือ  อำเภอเมืองสรวง  จังหวัดร้อยเอ็ด 
พระกรรมวาจาจารย์  พระอธิการอ่อน  ฉายา  จารุวณฺโณ
พระอนุสาวนาจารย์  พระอุดม  ฉายา  อภินนฺโท
วิทยฐานะ
.๒๕๐๐  สำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่  ๔    จากโรงเรียนวัดไผ่เงินโชตนาราม 
แขวงบางโคล่  เขตคลองแหลม  กรุงเทพมหานคร
.๒๕๐๓  สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่  ๓  จากโรง เรียนวัดสุทธิวราราม  เขตยานนาวา  กรุงเทพมหานคร
.๒๕๑๒  สอบไล่ได้  นักธรรมชั้นเอก  จากสำนักเรียนวัดท่าสว่าง  ตำบลหนองผือ  อำเภอเมืองสรวง  จังหวัดร้อยเอ็ด
.๒๕๑๘  สำเร็จการศึกษาผู้ใหญ่ระดับ  ๔  จากโรงเรียนวัดสระทอง  ตำบลในเมือง  อำเภอเมืองร้อยเอ็ด  จังหวัดร้อยเอ็ด 
.๒๕๓๙  สอบได้  ป.๓  จากสำนักศาสนศึกษาวัดเมืองสรวงเก่า  ตำบลหนองผือ  อำเภอเมืองสรวง  จังหวัดร้อยเอ็ด
.๒๕๔๕  สำเร็จการศึกษาปริญญาตรี  พุทธศาสตรบัณฑิต (พธ..)
จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย  วิทยาเขตขอนแก่น
การศึกษาพิเศษ  เรียนจบการบัญชีและพิมพ์ดีดคอมพิวเตอร์
ความชำนาญการ  การออกแบบแปลนการก่อสร้าง  เช่น  ช่างปูน  ช่างไม้   เขียนลายไทย  







ถึงเวลาอวสานแห่งชีวิต

โดยที่ไม่อาจเข้าใจสัจธรรมของชีวิต

นับเป็นเรื่องน่าเสียดายยิ่งนัก
มีผู้คนมากมายฝากชีวิตไว้กับโชคชะตา
ให้โชคชะตารักษาชีวิตและโอกาสของตนเอาไว้
โอกาสบางอย่างเสียไปยังเริ่มใหม่ได้
แต่บางเรื่องบางอย่างไม่มีโอกาสที่จะเริ่มใหม่ได้
บางคนอาจจะคิดได้ตอนใกล้ตาย
แต่ถึงคิดได้ก็ไม่มีใครให้โอกาสได้อีก

คำคมโดนใจ ช่วยสอนวัยรุ่นไทยให้คิดเป็น
1. การเรียนแม้เหนื่อยยาก ย่อมลำบากอย่าท้อแท้ สุดท้ายที่รอคอยคืออนาคตอันงดงาม
2. ใฝ่เรียน ใฝ่รู้ ใฝ่กตัญญู ใฝ่ความดี
3. ความจริงจังตั้งใจคือกุญแจไขสู่ความสำเร็จ
4. นับถือตัวเอง นับถือผู้อื่น และรับผิดชอบในสิ่งที่ตนทำ
5. ศัตรูที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดในชีวิตคือ ตัวเราเอง
6. ความผิดพลาดมหันต์ที่สุดในชีวิตคือการยอมแพ้ตัวเอง
7. การล้มละลายในชีวิตเราคือความสิ้นหวัง
8. คนดีไม่เบ่ง คนเก่งไม่โม้ คนใหญ่โตไม่อวด
9. ไม่มีอะไรทีเป็นไปไม่ได้ เพียงแต่จะเป็นไปได้ยากหรือง่ายเท่านั้นเอง
10. เล่นหมากรุก อย่าเอาแต่บุกอย่างเดียว เดินหมากรุกยังต้องคิด เดินหมากชีวิตไม่คิด


งานการปกครอง 
.๒๕๒๓  เป็นรองเจ้าอาวาสวัดท่าสว่าง  ตำบลหนองผือ อำเภอเมืองสรวง   จังหวัดร้อยเอ็ด
. .๒๕๒๕  เป็นเจ้าอาวาสวัดท่าสว่าง  ตำบลหนองผือ  อำเภอเมืองสรวง  จังหวัดร้อยเอ็ด
.๒๕๒๕  เป็นเจ้าคณะตำบลหนองผือ  อำเภอเมืองสรวง  จังหวัดร้อยเอ็ด 
.๒๕๒๗  เป็นพระอุปัชฌาย์  ตำบลหนองผือ  อำเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อยเอ็ด
.๒๕๔๕  เป็นรองเจ้าคณะอำเภอเมืองสรวง   จังหวัดร้อยเอ็ด
๖.  พ.ศ.  ๒๕๕๐  เป็นเจ้าคณะอำเภอเมืองสรวง
.  มีระเบียบการปกครองวัด  ดังนี้
พระภิกษุสามเณรทุกรูป  ต้องทำวัตรสวดมนต์เช้า เย็น
เป็นประจำทุกวัน   (เว้นแต่อาพาธหรือมีกิจจำเป็น)
๒. พระภิกษุสามเณรทุกรูป  ต้องช่วยกันรักษาความสะอาดภายใน บริเวณวัด เป็นประจำทุกวัน
๓. พระภิกษุสามเณรทุกรูป  ก่อนจะลาสิกขาบท  จะต้องเข้าสอบธรรมสนามหลวงประจำปีก่อน  จึงจะอนุญาตให้ลาสิกขาบทได้  (เว้นแต่กรณีพิเศษ)
๔. พระภิกษุสามเณรทุกรูป  จะต้องรักษาสิ่งของที่เป็นครุภัณฑ์และลหุภัณฑ์ อันเป็นสมบัติของสงฆ์และเมื่อนำไปใช้แล้วจะต้องนำไปเก็บไว้ที่เดิม
๕. พระภิกษุสามเณรทุกรูป  จะต้องรักษามารยาท  ตามเสขิยะวัตร  และควรปฏิสัณฐานแก่สหธรรมิกด้วยดี  ตามสมควรแก่สมณะ
๖. ห้ามพระภิกษุสามเณรทุกรูป  ออกเรี่ยไร  บอกใบ้ให้หวย  เล่น มวยตู้  และเล่นการพนันอื่น ๆ  ทุกชนิด
๗. ห้ามพระภิกษุสามเณรทุกรูป   ดูมหรสพนอกวัดหรือไปเที่ยวใน  ที่อโคจร
๘. ห้ามพระภิกษุสามเณรทุกรูป  เสพสิ่งเสพติดทุกชนิดโดยเด็ดขาด


มีกติกาของวัด  ดังนี้ 
พระภิกษุสามเณรทุกรูป   ต้องออกบิณฑบาตเป็นประจำทุกวัน    (ยกเว้นวันพระและอาพาธ)
) พระภิกษุสามเณรทุกรูป  ต้องนุ่งห่มให้เป็นระเบียบเรียบร้อย       ให้เป็นสีเดียวกัน  เพื่อความพร้อมเพรียงและสวยงามของหมู่คณะ
๓)  พระภิกษุสามเณรทุกรูป  จะไปทำกิจนอกวัดจะต้องบอกลา       
ขออนุญาต  เจ้าอาวาสหรือพระภิกษุที่ได้รับมอบหมายจากเจ้าอาวาสก่อนทุกครั้ง
เวลา  ๐๔.๐๐  น. พระภิกษุสามเณรทุกรูปทำวัตรเช้าร่วมกันใน
อุโบสถ  ด้วยความพร้อมเพรียงกัน
เวลา  ๐๗.๐๐  น. พระภิกษุสามเณรทุกรูปร่วมฉันภัตตาหารเช้าที่ศาลาการเปรียญด้วยความพร้อมเพรียงกัน
เวลา  ๐๘.๓๐  น. พระภิกษุสามเณรที่ยังไม่สอบไล่นักธรรมได้ต้องเข้าเรียนหลักสูตรพระปริยัติธรรม แผนกธรรม
เวลา  ๑๓.๓๐  พระภิกษุสามเณรต้องเข้าเรียนพระปริยัติธรรม  แผนกธรรมภาคบ่าย
เวลา  ๑๘.๐๐  พระภิกษุสามเณรทุกรูปทำวัตรเย็นร่วมกัน
มีการพัฒนาวัด  ดังนี้ 
ปลูกไม้ดอก  ไม้ประดับ  ไม้ผล  ให้เป็นระเบียบสวยงามดูร่มรื่น
ปลูกสิ่งก่อสร้างเสนาสนะให้ถูกหลักกับแบบแปลนแผนผังของ กรมการศาสนา
ให้ภิกษุสามเณรช่วยกันรักษาความสะอาดในเสนาสนะที่ได้รับ มอบหมาย
จัดให้เป็นเขตพุทธาวาส  สังฆาวาสและเขตปรก  (กัมมัฏฐาน)
๕)  ปรับพื้นที่  และปรับภูมิทัศน์ภายในวัดให้ร่มรื่น 
๖)  จัดให้ภิกษุสามเณรทุกรูปรักษาความสะอาดภายในบริเวณวัด
๗)  จัดสร้างเสนาสนะให้เป็นระเบียบแบ่งเขตพุทธาวาสสังฆาวาส  และเขตอภัยทาน


งานการศึกษา         
.๒๕๑๓  เป็นครูสอนพระปริยัติธรรมแผนกธรรม  ที่สำนัก
ศาสนศึกษาวัดท่าสว่าง  ตำบลหนองผือ  อำเภอเมืองสรวง  จังหวัดร้อยเอ็ด 
๒. พ.๒๕๒๕  เป็นเจ้าสำนักศาสนศึกษาวัดท่าสว่าง  ตำบลหนองผือ   อำเภอเมืองสรวง  จังหวัดร้อยเอ็ด 
.๒๕๒๕ - ๒๕๓๐  เป็นกรรมการสอบธรรมสนามหลวง  ที่โรงเรียนบ้านเหล่าฮก  ตำบลหนองผือ  อำเภอเมืองสรวง   จังหวัดร้อยเอ็ด
๔. พ.๒๕๔๐ - ๒๕๔๖  เป็นกรรมการสอบบาลีสนามหลวง  ที่สำนัก 
เรียนวัดบูรพาภิราม  พระอารามหลวง  ตำบลในเมือง  อำเภอเมืองร้อยเอ็ด   จังหวัดร้อยเอ็ด
๕.  พ.๒๕๓๑ - ๒๕๓๘  เป็นกรรมการสอบธรรมสนามหลวง ที่วัดเมืองสรวงเก่า  ตำบลหนองผือ  อำเภอเมืองสรวง  จังหวัดร้อยเอ็ด


วิธีส่งเสริมการศึกษา
จัดมอบทุนการศึกษาให้แก่พระภิกษุสามเณรที่มีผลการเรียนดีและมีความขยันหมั่นเพียร
มอบใบเกียรติบัตรยกย่องและประกาศเชิดชูเกียรติคุณ
มอบสมุด  หนังสือ  ปากกา  ดินสอ  ยางลบและไม้บรรทัด  ให้แก่นักเรียนทุกรูป 
จัดหาอุปกรณ์การเรียนการสอนสำหรับครูสอนนักธรรมและธรรมศึกษาทุกชั้น
จัดหาค่าตอบแทน  ให้แก่ครูสอนแผนกนักธรรมและธรรมศึกษาทุกชั้นตามแต่เห็นสมควร
ให้ทุนการศึกษาและส่งไปศึกษาต่อในระดับสูงๆ  ขึ้นไป
มอบทุนการศึกษาให้แก่พระภิกษุสามเณรที่สอบผ่านแต่ละรูป
๘)  มอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนธรรมศึกษาที่สอบผ่านแต่ละปี 

งานเผยแผ่    
.๒๕๒๐  เป็นพระนักเผยแผ่  ประจำอำเภอเมืองสรวง  จังหวัดร้อยเอ็ด
. .๒๕๒๘  เป็นกรรมการหน่วย  อ..วัดบ้านเหล่าฮก  ตำบลหนองผือ  อำเภอเมืองสรวง 
จังหวัดร้อยเอ็ด  
.๒๕๒๙  เป็นกรรมการ  การศึกษาโรงเรียนบ้านหนองผือ -โนนค้อ   
.๒๕๒๙  เป็นพระธรรมทูตสายที่  ๕  ตำบลหนองผือ  อำเภอเมืองสรวง  จังหวัดร้อยเอ็ด   
.๒๕๓๔  เป็นประธานศูนย์  ค..ที่วัดเมืองสรวงเก่า  ตำบลหนองผือ  อำเภอเมืองสรวง 
จังหวัดร้อยเอ็ด 
.๒๕๓๕ - ๒๕๓๘  เป็นวิทยากรอบรมวิปัสสนากรรมฐานที่ศูนย์ดอนปู่ตา  ตำบลคูเมือง  อำเภอเมืองสรวง  จังหวัดร้อยเอ็ด
๗. พ.๒๕๓๙ - ๒๕๔๙  เป็นวิทยากรอบรมบรรยายธรรม
ที่วัดเมืองสรวงเก่า  ตำบลหนองผือ  อำเภอเมืองสรวง 
๘.  พ.ศ.  ๒๕๕๐  เป็นพระสอนศีลธรรมในโรงเรียนบ้านหนองผือ - โนนค้อ
งานสาธารณูปการ
๑.  งานก่อสร้างถาวรวัตถุภายในวัด  ดังนี้
๑.  พ.๒๕๔๕  ได้ดำเนินการก่อสร้างโรงครัว  ๑  หลัง ๑  ชั้น  ยกพื้น  ลักษณะทรงไทยคอนกรีตเสริมเหล็ก  ก่อด้วยอิฐถือปูน    หลังคามุงด้วยกระเบื้องลูกฟูก  กว้าง  ๘  เมตร  ยาว  ๑๒  เมตร ที่วัดท่าสว่าง  ตำบลหนองผือ  อำเภอเมือง-สรวง  จังหวัดร้อยเอ็ด  สิ้นค่าก่อสร้างเป็นเงินทั้งสิ้น  จำนวน  ๓๕๑,๗๗๔ บาท (สามแสนห้าหมื่นหนึ่งพันเจ็ดร้อยเจ็ดสิบสี่บาทถ้วน)
๒. พ.๒๕๔๗ ได้ดำเนินการก่อสร้างกุฎีสงฆ์  จำนวน  ๑  หลัง  ๒  ชั้น  ลักษณะทรงไทย  คอนกรีตเสริมเหล็ก  ก่อด้วยอิฐถือปูน   หลังคามุงด้วยกระเบื้องเคลือบ  กว้าง  ๘  เมตร  ยาว  ๑๒  เมตร  ที่วัดท่าสว่าง  ตำบลหนองผือ  อำเภอเมืองสรวง  จังหวัดร้อยเอ็ด  สิ้นค่าก่อสร้าง  รวมเป็นเงินทั้งสิ้น  จำนวน  ๖๓๒,๖๓๘  บาท 
(หกแสนสามหมื่นสองพันหกร้อยสามสิบแปดบาทถ้วน).๒๕๓๖ได้ดำเนินการก่อสร้างเมรุ  ๑  หลัง  ลักษณะทรงไทย  คอนกรีตเสริมเหล็ก  ก่อด้วยอิฐถือปูน หลังคา  มุงด้วยกระเบื้องเคลือบ  กว้าง  ๕  เมตร  ยาว  ๑๐  เมตร  ที่วัดท่าสว่าง  ตำบลหนองผือ  อำเภอเมืองสรวง  จังหวัดร้อยเอ็ด  สิ้นค่าก่อสร้างรวมเป็นเงินทั้งสิ้น  ๘๔๒,๐๐๐  บาท  (แปดแสนสี่หมื่นสองพันบาทถ้วน).๒๕๓๖ได้ดำเนินการก่อสร้างกำแพงรอบวัด  คอนกรีตเสริมเหล็ก ก่อด้วยอิฐถือปูน   สูง  ๘   เมตร   ยาว  ๑๒๐  เมตร    ที่วัดท่าสว่าง  ตำบลหนองผือ  
อำเภอเมืองสรวง   จังหวัด ร้อยเอ็ด  สิ้นค่าก่อสร้างรวมเป็นเงินทั้งสิ้น  ๑๒๖,๙๐๒  บาท
(หนึ่งแสนสองหมื่นหกพันเก้าร้อยสองบาทถ้วน)
.๒๕๔๙  ได้ดำเนินการก่อสร้างซุ้มประตู  จำนวน  ๑  ซุ้ม   ลักษณะทรงไทย  คอนกรีตเสริมเหล็ก  ก่อด้วยอิฐถือปูน   สูง  ๑๔  เมตร  กว้าง  ๕  เมตร  ที่วัดท่าสว่าง  ตำบลหนองผือ  อำเภอเมืองสรวง  จังหวัดร้อยเอ็ด  สิ้นค่าก่อสร้างรวมเป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน   ๑๔๒,๕๐๐  บาท  (หนึ่งแสนสี่หมื่นสองพันห้าร้อยบาทถ้วน)
.๒๕๕๐  ได้ดำเนินการก่อสร้างห้องน้ำ  จำนวน  ๑๐  ห้อง  จำนวน  ๑  หลัง  ลักษณะทรงไทย  คอนกรีตเสริมเหล็ก  ก่อด้วยอิฐถือปูน  หลังคามุงกระเบื้องลูกฟูก  สูง  ๒  เมตร  ยาว  ๑๕  เมตร  ที่วัดท่าสว่าง  ตำบลหนองผือ  อำเภอเมืองสรวง  จังหวัดร้อยเอ็ด  สิ้นค่าก่อสร้างรวมเป็นเงินทั้งสิ้น  ๑๒๓,๖๕๙  บาท  (หนึ่งแสนสองหมื่นสามพันหกร้อยห้าสิบเก้าบาทถ้วน)
.๒๕๕๑       ได้ดำเนินการก่อสร้างถังเก็บน้ำฝน  จำนวน  ๔  ถัง  เส้นผ่าศูนย์กลาง  ๒  เมตร  สูง  ๓  เมตร   ที่วัดท่าสว่าง  ตำบลหนองผือ  อำเภอเมืองสรวง  จังหวัดร้อยเอ็ด 
สิ้นค่าก่อสร้างเป็นเงินทั้งสิ้น  ๑๑๕,๐๐๐  บาท  (หนึ่งแสนหนึ่งหมื่นห้าพันบาทถ้วน )
๘.  พ.ศ.  ๒๕๕๐ ได้ดำเนินการก่อสร้างสำนักงานรักษาการเจ้าคณะ อำเภอราคาในการก่อสร้าง  จำนวน   ๕๖,๘๐๐  บาท  รวมค่าก่อสร้างทุกรายการเป็นเงินทั้งสิ้น จำนวน   ๒,๓๓๙๑,๒๗๓   บาท
(สองล้านสามแสนเก้าหมื่นหนึ่งพันสองร้อยเจ็ดสิบสามบาทถ้วน)


งานบูรณะปฏิสังขรณ์
.๒๕๕๐ ได้ดำเนินการบูรณะกุฎีสงฆ์  ๑  หลัง
๒.  พ.ศ.  ๒๕๕๑  ได้ดำเนินการบูรณะ  และต่อเติมหน้ามุขกุฎีสงฆ์    รวมทั้งสิ้นจำนวน  ๘๕,๕๐๐  บาท
(แปดหมื่นห้าพันห้าร้อยบาทถ้วน)
๑๐งานบำเพ็ญสาธารณประโยชน์  คือ    
.๒๕๔๙       เป็นประธานกรรมการนำภิกษุสามเณร
 และชาวบ้านหนองผือตัดถนนภายในหมู่บ้าน  จำนวน  ๒    สาย  กว้าง  ๖  เมตร  ยาว  ๔๐๐  เมตร  พร้อมทั้งนำหินลูกรังมาเทถนน  จำนวน  ๒๐  รถคิดเป็นมูลค่า  ๒๐,๐๐๐  บาท  โดยได้รับบริจาคจากชาวบ้านหนองผือ    ตำบลหนองผือ  อำเภอเมืองสรวง  จังหวัดร้อยเอ็ด
. ๒๕๕๐     ได้ดำเนินการนำชาวบ้านตัดถนนเชื่อม
ระหว่าง  บ้านหนองผือ  กับ  บ้านผำใหญ่    อำเภอ เมืองสรวง  จังหวัดร้อยเอ็ด  ถนนกว้าง  ๕  เมตร  ยาว ๔       กิโลเมตรโดยมิได้เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ  ทั้งสิ้น
.๒๕๕๑      ได้ดำเนินการก่อสร้างประปาในหมู่บ้าน
หนองผือ จำนวน  ๑  ถัง  ราคาในการก่อสร้าง  จำนวน  ๒๒,๒๓๕ บาท โดยได้รับบริจาค  จากชาวบ้านหนองผือ ตำบลหนองผือ  อำเภอเมืองสรวง  จังหวัดร้อยเอ็ด
๑๑ . งานบำเพ็ญสาธรณสงเคราะห์   คือ
. . . ๒๕๕๐    ได้มอบทุนการศึกษา   จำนวน    ๑๐  ทุน ๆ ละ   ๑,๐๐๐  บาทให้แก่เด็กนักเรียนโรงเรียนเมือง-สรวงวิทยา   ตำบลหนองผือ   อำเภอเมืองสรวง   จังหวัดร้อยเอ็ด
. . . ๒๕๓๗    ได้มอบทุนการศึกษาแก่ศูนย์เด็กก่อนเกณฑ์   ที่ศูนย์เด็กก่อนเกณฑ์วัดเมืองสรวงเก่า     ตำบลหนองผือ    อำเภอเมืองสรวง   จังหวัดร้อยเอ็ด  จำนวน    ๑๐,๐๐๐   บาท


๑๒งานพิเศษ
. . . ๒๕๔๙   ได้เข้าร่วมประชุม   ปบ.ที่วิทยาลัยสุโขทัย   จังหวัดนนทบุรี
.๒๕๓๗  ได้เข้าร่วมประชุมอบรมครูสอนพระปริยัติธรรม
แผนกธรรม  ที่วัดเมืองสรวงเก่า  ตำบลหนองผือ  อำเภอเมืองสรวง    จังหวัดร้อยเอ็ด
. . ๒๕๔๗ - ๒๕๕๒   ได้เข้าร่วมประชุมอบรมพระสังฆาธิ-การระดับเจ้าอาวาส/เจ้าคณะตำบล 
ที่วัดบูรพาภิราม   ตำบลในเมือง   อำเภอเมืองร้อยเอ็ด   จังหวัดร้อยเอ็ด
๔.  พ.๒๕๔๘  ได้ร่วมออกตรวจเยี่ยมสำนักงานเจ้าคณะตำบลในเขตปกครอง  อำเภอเมืองสรวง  จังหวัดร้อยเอ็ด  

๑๓สมณศักดิ์
. .๒๕๒๘  ได้รับแต่งตั้งเป็นพระฐานะนุกรมจากพระครูสิริญาณประยุต  เจ้าคณะอำเภอเมืองสรวง ที่พระสมุห์บุญเลิศ จนฺทโชโต
. .๒๕๓๔  ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์   
เป็นพระครูสัญญาบัตร   เจ้าคณะตำบลชั้นตรีที่    พระครูประโชติสมณวัตร
๑.  พ.๒๕๔๑  ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์     เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะตำบลชั้นโท
ในพระราชทินนามเดิม  ที่พระครูประโชติสมณวัตร
.๒๕๔๕  ได้รับแต่งตั้งเป็นรองเจ้าคณะอำเภอเมืองสรวง   ในพระราชทินนามเดิม 
 ที่พระครูประโชติสมณวัตร
๕.  พ.ศ.  ๒๕๕๐  ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะอำเภอเมืองสรวง   
๖.  พ.ศ.  ๒๕๔๙  ได้เป็นอาจารย์สอนมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย  หลักสูตร  ป.บส. 
ห้องเรียนร้อยเอ็ด 
๗.  พ.ศ.  ๒๕๕๐   ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้รักษาการเจ้าคณะอำเภอ     
เมืองสรวง  มีวัดในเขตปกครอง    ๕    ตำบล  จำนวน    ๓๐   วัด


อานิสงส์ของการไหว้พระสวดมนต์
๑. การสวดมนต์ทุกวันเป็นมงคลแก่ตนเองและครอบครัว
๒. เป็นการบำเพ็ญภาวนาอย่างหนึ่ง
๓. ทำให้จิตบังเกิดกุศลได้ง่าย
๔. ทำให้ใจสงบสุข
๕. เหมาะสำหรับการเตรียมตัวก่อนปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน
๖. เป็นบุญที่ได้กล่าวคำศักดิ์สิทธิ์ที่พระพุทธเจ้าบัญญัติไว้
๗. สวดมนต์เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา
๘. เพื่อป้องกันภัยวิบัติ
๙. เพื่อความสำเร็จในสมบัติทั้งปวง
๑๐. เพื่อให้ทุกข์ต่าง ๆ หมดไป
๑๑. เป็นการขจัดภัยต่าง ๆ
๑๒. เพื่อบรรเทาความเจ็บป่วยต่าง ๆ
การสวดมนต์ ควรสวดให้มีจังหวะวรรคตอนพอดี ไม่เร็วหรือไม่ช้าเกินไป เสียงดังพอประมาณจะทำให้เกิดความสบายใจ และถ้าเราเข้าใจความหมายเนื้อเรื่องของบทสวดแล้วนำไปปฏิบัติจะทำให้เราได้ประโยชน์จากการสวดมนต์ที่สมบูรณ์
วิธีการสวด
 ให้เริ่มสวด ตั้งแต่บทบูชาพระรัตนตรัย กราบพระรัตนตรัย นมัสการพระรัตนรัย    ( นะโม ๓ จบ ) คำขอขมาพระรัตนตรัย ไตรสรณคมณ์ ถวายพรพระ ( อิติปิ โสฯ ) พุทธชัยมงคลคาถา ( พาหุงฯ ) เพียง ๑ จบ จากนั้นให้สวดอิติปิ โสฯ เท่าอายุบวกด้วย ๑ เสร็จแล้วให้แผ่เมตตาให้ตนเอง แผ่เมตตาให้สรรพสัตว์ แผ่ส่วนกุศล เสร็จแล้วจึงอธิษฐานตามสิ่งที่ปรารถนา จากนั้นจึงสวดพระคาถาและบทสวนอื่น ๆ


อานิสงส์การทำความสะอาดวัด
        การมาวัดช่วยกันทำความสะอาดเสนาสนะ จะได้อานิสงส์คือ ต่อไปผิวพรรณวรรณะจะผ่องใส สวยงาม พวกกระ จุดด่างดำ  ไฝฝ้า หรืออะไรต่าง ๆ ไม่มีสิทธิ์ขึ้นเลยเมื่อจะไปอยู่ที่แห่งหนตำบลใดจะเจอแต่ที่ที่น่ารื่นรมย์สวยงาม ทำให้สบายใจ ทั้งที่ในมนุษย์โลก และที่ในเทวโลก
ขั้นตอนการทำความสะอาด
1. มอบหมายความเป็นเจ้าของพื้นที่
ก่อนที่จะเริ่มต้นทำความสะอาด สิ่งที่สำคัญอันดับแรกก็คือการแบ่งความรับผิดชอบในการทำความสะอาดให้ชัดเจน พื้นที่ต่าง ๆ จะต้องมีผู้รับผิดชอบหากการแบ่งพื้นที่ความรับผิดชอบคลุมเครืออาจทำให้ไม่มีผู้ใดเข้าไปทำความสะอาดได้


2. ศึกษาวิธีการใช้งานอุปกรณ์
ในการทำความสะอาดอุปกรณ์ผู้ทำความสะอาดจะต้องรู้และเข้าใจเกี่ยวกับรายละเอียดของอุปกรณ์เป็นอย่างดี เนื่องจากอุปกรณ์บางประเภทอาจมีกลไกหรือมีชิ้นส่วนที่เป็นอีเล็กทรอนิกส์อยู่หากทำความสะอาดโดยไม่มีความรู้ในสิ่งที่กล่าวมา อาจทำให้เกิดความเสียหายได้
3. กำหนดเวลาทำความสะอาด
ควรกำหนดเวลาในการทำความสะอาดให้เหมาะสมกับองค์กร เนื่องจากสภาพการทำงานของแต่ละองค์กรแตกต่างกัน การกำหนดเวลาทำความสะอาดไม่เหมาะสมอาจทำให้บุคลากรรู้สึกว่าการทำความสะอาดเป็นภาระ และกระทบต่องานปกติที่ทำอยู่ ซึ่งจะทำให้รู้สึกต่อต้านการทำความสะอาดได้ การกำหนดเวลาในการทำความสะอาดส่วนใหญ่มีหลายแบบ ดังนื้  ก่อนและหลังการใช้งาว  ก่อนทำงานและหลังเลิกงาน
 5 นาที 5
 ชั่วโมง 5ส ประจำวัน ประจำสัปดาห์ ประจำเดือน
 วัน 5ส ประจำสัปดาห์ เช่น ศุกร์ 5
 วันทำความสะอาดใหญ่ประจำปี
การกำหนดวันทำความสะอาดใหญ่ประจำปี จุดมุ่งหมายให้พนักงานได้ทำความสะอาดในส่วนที่เวลาปกติ ไม่สามารถทำความสะอาด ได้และอาจต้องใช้เวลามาก คณะกรรมการ 5ส จะต้องสื่อสารให้บุคลากรเข้าใจวัตถุประสงค์ ของการทำความสะอาดใหญ่ประจำปี ไม่เช่นนั้น บุคลากรอาจจะคิดไปว่าการทำความสะอาดจะต้องทำแค่ในวันทำความ สะอาดใหญ่เท่านั้น
4. กำหนดรายละเอียดของการทำความสะอาด
ในการทำความสะอาด ไม่ควรปล่อยให้บุคลากรทำกันเองโดยไม่มีการแนะนำเนื่องจากบุคลากรอาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์และ ทำให้ อุปกรณ์ เสียหายได้ จุดต่าง ๆ ที่ต้องทำความสะอาดจะต้องระบุไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้บุคลากรทำความสะอาดได้อย่างครบถ้วนและถูกต้อง
5. ใช้อุปกรณ์และวิธีการทำความสะอาดที่ถูกต้อง 


หัวหน้างาน หรือหัวหน้าพื้นที่ จะต้องสอนให้บุคลากรใช้อุปกรณ์ในการทำความสะอาดอย่างถูกต้อง เนื่องจากอุปกรณ์ที่ใช้มีความ แตกต่างกัน ทั้งโครงสร้างกลไก ระบบไฟฟ้า บุคลากรจะต้องทราบสิ่งเหล่านี้เพื่อจะได้ทำความสะอาดได้อย่างถูกต้อง ระมัดระวังไม่ให้ถูกน้ำ เพราะอาจจะทำให้เกิดการช๊อตได้ หรือการห้ามใช้น้ำยาทำความสะอาดในบริเวณที่ใช้ไม่ได้ เช่น ห้ามใช้ทินเนอร์ลบกระดานไวท์บอร์ด เป็นต้น
6. ทำความสะอาดทุกวันจนเป็นนิสัย
หากบุคลากรทำความสะอาดอยู่ทุกวัน แม้ว่าในช่วงเริ่มต้นอาจทำเพราะได้รับคำสั่งจากหัวหน้างาน แต่หากมีการทำความสะอาด อยู่ทุกวันแล้ว บุคลากรก็จะเคยชินกับการทำความสะอาด จนในที่สุดบุคลากรก็จะทำความสะอาดาจนเป็นนิสัยสิ่งที่จะได้รับจากการทำ (ส) สะอาด มีดังนี้ทำให้สภาพแวดล้อมในการทำงานดี บรรยากาศในการทำงานดี บุคลากรมีความกระตือรือร้นในการทำงานมากขึ้น หากเริ่มมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น ก็จะสามารถทราบได้อย่างรวดเร็ว  อายุการใช้งานของครุภัณฑ์ยาวนานขึ้น เนื่องจากเมื่อพบสิ่งผิดปกติเพียงเล็กน้อย จะแก้ไขได้ก่อนที่จะลุกลามบานปลายประสิทธิภาพของครุภัณฑ์ดีขึ้นบุคลากรรู้สึกเป็นเจ้าของหน่วยงา ผู้มารับบริการที่มาเยี่ยมชม มีความเชื่อถือต่อองค์กรเพิ่มมากขึ้น หัวใจของ ส สะอาด  การทำความสะอาดเป็นการตรวจสอบ  หัวใจของ ส สะอาด  การทำความสะอาดเป็นการ

     กลอนบ้านหนองผือ-โนนค้อ
ท่าสว่างอยู่หนองผือ                                    ชนทั้งปรือสุขหรรษา
กาลก่อนเนิ่นนานมา                                    มาอยู่ดินถิ่นพักเนา
หนองผือพักอาศัย                                      เพื่อจะได้พักร่มเงา
มะม่วงก็เก็บเอา                                        เป็นอาหารรับทานกัน           
ต่างคนต่างก็มา                                         มาอยู่นาพาสุขสันต์
จะได้ทำนากัน                                          มุมุ่งมั่นต่างร่วมใจ
โนนค้อชนแวดล้อม                                     ทุกคนพร้อมตั้งบ้านใหม่
ตามชื่อถิ่นอาศัย                                        จึงได้ชื่อบ้านโนนค้อ
ชุมชนต่างสุขศรี                                          สามัคคีต่างแหนหวง
หนึ่งเดียวใจทุกดวง                                     ชนทั้งปวงชื่นชีวา
ต่อมาเปลี่ยนชื่อใหม่                                    ชื่อไม่ไกลจากเดิมหนา
หนองผือ-โนนค้อชื่อเปลี่ยนมา                          ชื่นอุราเป็นหนึ่งเดียว
ถิ่นนี้สุขสมบูรณ์                                        อุดมพูนต่างแลเหลียว
สมานรักกันกลมเกลียว                               ไม่เปล่าเปลี่ยวมิรวนเร
วัดวาอารามนั้น                                         ก่อนรวมกันที่บ้านเรา
ร่วมกันไม่ซบเซา                                        วัดบ้านเราที่พึ่งพา
ชนร่วมรวมพลัง                                        ริมข้างฝั่งผือธารา
ร่วมกันสร้างวัดวา                                       ได้พึ่งพาศูนย์รวมใจ
ถึงฮีตบุญคูณลาน                                      เกินกล่าวขานต่างสดใส
ชนชื่นรื่นเริงใจ                                          ต่างก็ได้ทำบุญกัน
ทุกคนต่างแซ่ซ้อง                                       รักปรองดองแสนสุขสันต์
หนองผือ-โนนค้อ อัศจรรย์                             ด้วยรักมั่นผูกพันเอย /***


“บทแผ่เมตตา”
     ปวงข้าสำรวมจิต               น้อมอุทิศแผ่เมตตา
แก่สัตว์ทั่วโลกา                     บรรดามีชีวิตครอง
     สัตว์ทั้งหลายอย่าผูกเวร  คิดเชี่ยวเข็ญตอบสนอง
สัตว์ทั้งหลายอย่าคิดปอง       จิตขุ่นข้องเบียดเบียนกัน
     สัตว์ทั้งหลายจงพ้นทุกข์  ประสพสุขเกษมสันต์
ทุกชีวีมีจิตมั่น                  เมตตากันนิรันดร์กาล
     บุญใดข้าได้ทำ            โปรดช่วยนำแผ่ไพศาล
พ่อแม่และวงศ์วาน            ครูอาจารย์สำราญใจ
     หมู่สัตว์ทั้งใหญ่น้อย      โปรดได้คอยรับบุญไว้
พ้นโศกห่างโรคภัย             สุขสมใจทุกท่านเทอญฯ
“งานศพ”
     ขอให้ดวงวิญญาณ       ผู้วายปราณจากไปดี
สงบสุขจากสุขขี                     ผลบุญนี้จงช่วยพลัน
     บุญกุศลดลบันดาล       สู่วิมานสรวงสวรรค์
เสวยสุขทุกคืนวัน              บนสวรรค์นิรันดร์เทอญฯ



คำแผ่เมตตา
(นำ)ขอให้ชาติ,  ศาสนา,  พระมหากษัตริย์,     ยืนยงดำรงมั่น เป็นหลักชัย,  ปราศจากภัยพิบัติ, 
อุปัทวันตรายทั้งสิ้น,ขอให้ประชาชน,  บนพื้นแผ่นดินไทย,จงอยู่เย็นเป็นสุข,  ปราศจากความอยู่ร้อนนอนทุกข์, 
จงมั่งมีศรีสุข,  ปราศจากความอยากจนเข็ญใจ,  พ้นจากภัยพิบัติ, 
อุปัทวันตรายทั้งปวงเทอญ...





กำหนดพิธีพระราชทานเพลิงศพ
พระครูประโชติสมณวัตร (บุญเลิศ  จนฺทโชโต อายุ ๖๘ พรรษา ๔๘)
  น.ธ.เอก ป.ธ. ๓ พธ.บ.
อดีตเจ้าคณะอำเภอเมืองสรวง / อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าสว่าง
ระหว่างวันที่  ๑๗ - ๑๙  เมษายน  ๒๕๕๖
ณ  เมรุชั่วคราววัดท่าสว่าง  บ้านหนองผือ-โนนค้อ   อำเภอเมืองสรวง  จังหวัดร้อยเอ็ด
วันพุธที่  ๑๗  เมษายน  ๒๕๕๖  ตรงกับวันขึ้น  ๗  ค่ำ  เดือน  ๕
เวลา  ๐๗.๐๐  น. ถวายภัตตาหารเช้าแด่พระภิกษุ - สามเณร
เวลา  ๐­­๘.๐๐  น. ต้อนรับคณะผ้าป่าสามัคคีจากสายต่างๆ  และต้นดอกไม้เงินจากหมู่บ้านต่างๆ
เวลา  ๑๑.๐๐  น. ถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุ - สามเณร
เวลา  ๑๕.๐๐  น. เคลื่อนศพขึ้นสู่เมรุ แห่เวียนรอบเมรุ/ขึ้นตั้งบนจิตกาธาน แล้วตั้งศพบำเพ็ญกุศล
เวลา  ๑๗.๐๐  น. ลงทะเบียนบวชชีพราหมณ์
เวลา  ๑๙.๐๐  น.  แสดงพระธรรมเทศนา  ๑  กัณฑ์  โดย  พระเดชพระคุณพระพุทธิสารมุนี  เจ้าคณะจังหวัดร้อยเอ็ด 
พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์  ๑๐  รูป  สวดมาติกาบังสุกุล/พระอภิธรรม
เวลา  ๒๐.๐๐  น. สวดมาติกา/สวดพระอภิธรรม / ปฏิบัติธรรมตลอดคืน
วันพฤหัสบดีที่  ๑๘  เมษายน  ๒๕๕๖  ตรงกับวันขึ้น  ๘  ค่ำ  เดือน  ๕
เวลา  ๐๔.๐๐  น. ทำวัตรเช้า/เจริญจิตภาวนา
เวลา  ๐๗.๐๐  น.  ถวายภัตตาหารเช้าแด่พระภิกษุ-สามเณร เปิดให้พุทธศาสนิกชนร่วมบำเพ็ญกุศลทอดผ้าบังสุกุลอุทิศถวายหลวงพ่อตลอดทั้งวัน
เวลา  ๑๐.๐๐  น. พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์  ๑๐  รูป  สวดพระพุทธมนต์
เวลา  ๑๑.๐๐  น.  ถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุ - สามเณร
เวลา  ๑๒.๓๐  น. แสดงธรรมเทศนา ๑ กัณฑ์ โดย พระเดชพระคุณพระเทพเมธี  รองเจ้าคณะภาค  ๙  พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์  ๒๕  รูปสวดแจง
                   พระสงฆ์ที่มาร่วมงานทุกรูป/สวดมาติกาบังสุกุล ถวายไทยธรรม  พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ ๑๐ รูป พิจารณาผ้าไตรบังสุกุล
เวลา  ๑๕.๓๐  น.  ขบวนเชิญหีบเพลิงพระราชทานมาถึงบริเวณพิธีวัดท่าสว่าง บ้านหนองผือ-โนนค้อ เข้าสู่พิธีพระราชทานเพลิงตามลำดับ
เวลา  ๑๖.๐๐  น.  ประธานฝ่ายฆราวาส   ขึ้นทอดผ้ามหาบังสุกุล
                   ประธานฝ่ายสงฆ์พิจารณาผ้ามหาบังสุกุล   ประกอบพิธีพระราชทานเพลิง
เวลา  ๑๙.๐๐  น. บรรยายธรรมและสวดมาติกาบังสุกุล/สวดพระอภิธรรม
เวลา  ๒๔.๐๐  น. ประกอบพิธีประชุมเพลิงจริง
วันศุกร์ที่  ๑๙  เมษายน  ๒๕๕๖  ตรงกับวันขึ้น  ๙  ค่ำ  เดือน  ๕
เวลา  ๐๔.๐๐  น. ทำวัตรเช้า/เจริญจิตภาวนา
เวลา  ๐๗.๐๐  น.  ประกอบพิธีสามหาบเก็บอัฐิ
เวลา  ๐๗.๓๐  น. พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์  ๑๐  รูป  สวดพระพุทธมนต์ฉลองอัฐิ
ถวายภัตตาหารเช้าแด่พระภิกษุ - สามเณร  พระสงฆ์อนุโมทนา  พุทธศาสนิกชนตรวดน้ำรับพร  เป็นอันเสร็จพิธี



อิมินา ปุญญะกัมเมนะ,
          ด้วยผลบุญกุศล, ที่ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน, และกุศลศีลทานทั้งหลาย, ที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญเพียรพยายาม, มาจากอดีตจนถึงปัจจุบัน, วันนี้ข้าพเจ้าขอน้อมถวายแด่พระรัตนตรัย, กล่าวคือคุณพระพุทธ คุณพระธรรม และคุณพระอริยสงฆ์, พระมหาโพธิสัตว์ทั้งหลาย และขออุทิศส่วนกุศล ไปยังบิดา มารดา ปู่ย่า ตายาย, ครูบาอาจารย์ ญาติกาทั้งหลาย และสัตว์ ทั้งหลายทั้งปวงทั่วทั้งจักรวาล,
          พระพรหม พระยม พระกาฬ ท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่, พระภูมิเจ้าที่ พระแม่ธรณี, พระแม่คงคา พระแม่โพสพ, รวมทั้งเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย, จงได้รับส่วนผลบุญกุศลนี้,
          จงเป็นสุข เป็นสุขเถิด, ถ้าท่านทั้งหลายทั้งปวง, และสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง, ไปทนทุกข์อยู่ ณ ที่แห่งใด, ก็ขอให้บุญกุศลนี้ได้ช่วยให้พ้นจากทุกข์, ให้ได้ไปอยู่ที่สุข, ถ้าได้อยู่ที่สุขแล้ว ก็ขอให้ได้มีความสุขยิ่งๆ ขึ้นไปอีก,
          ข้าพเจ้าขออานุภาพแห่งสัจจะอธิษฐาน, จงเป็นพละวะปัจจัย เป็นนิสัยตามส่ง, ให้ข้าพเจ้าเกิดปัญญาญาณ, บรรลุถึงพระนิพพานได้โดยเร็ว, แต่ถ้าหากข้าพเจ้ายังไปไม่ถึงพระนิพพาน, ยังต้องเวียนว่ายอยู่ในวัฎสงสารตราบใด, ขอให้ได้เกิดในภพภูมิที่ดี ที่เป็นกุศล,
          ถ้าได้กลับมาเกิดในโลกมนุษย์อีก, ก็ขอให้ได้เกิดในตระกูลอันดี มีสัมมาทิฏฐิ, มีร่างกายที่บริสุทธิ์ผ่องใสงดงาม, ปราศจากโรคภัยที่จะเป็นอันตรายทั้งปวง, ปราศจากศัตรูและสรรพภัยทั้งหลาย, รวมทั้งความทุกข์ ยากจนเข็ญใจอนาถา, ขออย่าได้มาแผ้วพานกับข้าพเจ้าเลย,
          ขอให้ข้าพเจ้าได้อยู่ในมนุษย์สมบัติ สวรรคสมบัติ, ทั้งชาตินี้ชาติหน้า และ ทุกๆ ชาติ, จนกว่าข้าพเจ้านะสามารถบรรลุ มรรค ผล นิพพาน.
สาธุ นิพพานัสสะ ปัจจะโย โหตุ
สาธุ นิพพานัสสะ ปัจจะโย โหตุ
สาธุ นิพพานัสสะ ปัจจะโย โหตุ


วันเวลาผันผ่านไป
อดีตมิได้ถูกกำหนดมาให้ยึดติด
หากเเต่ถูกกำหนดมาเพื่อเป็นบทเรียนแห่งชีวิต
อนาคตเป็นเรื่องของวันข้างหน้า 
เป็นกาลเวลาที่ยังมาไม่ถึง
การเรียนรู้ที่จะดำเนินชีวิตนั้น
มีบางสิ่งที่จำเป็นต้องฝืนใจกระทำเหมือนกัน
เพราะคงไม่มีใครสามารถที่จะทำทุกอย่าง
ตามความต้องการได้  และคงมีบ้างเป็นบางครั้ง